วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[OS] ความชัดเจน [Chanyeol x Kyungsoo]

ความชัดเจน
















“คยองซู~~~~~~~” เสียงเรียกจากเพื่อนชายตัวสูงเกือบเท่าเสาไฟฟ้าอย่างปาร์คชานยอลดังมาก่อนตัวเสียอีก เจ้าของชื่อหันไปมองเพื่อนหูกางที่ยิ้มกว้างมาแต่ไกล แล้วร่างเล็กๆอย่างกับเด็กประถมนั้นก็ต้องรองรับแรงที่ถาโถมมาจากอีกคน ชานยอลเข้ากอดเพื่อนจากด้านหลังอย่างคุ้นเคย



ใช่ คุ้นเคย คุ้นเคยสายตาคนแถวนี้หมดแล้ว



“ฉันล่ะรำคาญนายจริงๆปาร์คชานยอล ไปไกลๆเลยไป” คนตัวเล็กพูดแบบโดยที่ไม่ใส่ใจมากนัก เอ่ยปากไล่นั่นก็พูดทุกวันโดยที่มันไม่ได้มีความจริงจังเท่าไหร่



“ไล่กันตลอดเลย ถ้าฉันหายไปแล้วนายจะรู้สึก! อ๊าาาาาาาา แบคฮยอนนนนนน อยากกินแซนด์วิชด้วยจังเลยอ่ะ ป้อนหน่อยๆ” ชานยอลหันมาตัดพ้อกับคยองซูได้ไม่ทันไร ก็หันไปทำตัวอ้อนใส่เพื่อนขนาดกะทัดรัดอีกคนเสียแล้ว



คยองซูมองดูภาพนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ



“ทำหน้าอย่างกับคนอกหักแน่ะ ทนเห็นพี่ชานยอลไปเล่นกับพี่แบคฮยอนไม่ได้อ่ะเด้” เซฮุน เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่นั่งอยู่ด้วยกันบนโต๊ะเอ่ยกระเซ้าเล่นๆกับพี่ชายตัวเล็ก



“ทำไมฉันจะทนไม่ได้ล่ะ หมอนั่นมันก็ทำตัวขี้อ้อนแบบนั้นกับทุกคนอยู่แล้ว”



“พี่น่ะปากแข็งรู้ตัวหรือเปล่า?”



“ฉันปากแข็งตรงไหนโอเซฮุน?”



“พี่รู้ตัวเองดีอยู่แล้ว” เซฮุนว่างพลางกดเกมในโทรศัพท์ต่อ



คยองซูเลิกสนใจรุ่นน้องแล้วหันไปมองชานยอลกับแบคฮยอนที่กำลังนั่งกินแซนด์วิชด้วยกันอยู่ ก่อนจะเสมองไปทางอื่น



เขาไม่น่าชอบเจ้าบ้าปาร์คชานยอลนั่นจริงๆนะ ทั้งๆที่ก็รู้ว่าชานยอลชอบทำตัวขี้เล่นกับทุกคนที่มันรู้จัก แต่คยองซูก็ไม่รู้จักห้ามใจตัวเองไม่ให้ไปหลงรักเจ้าเพื่อนบ้าช่างทะเล้นนั่นได้ แล้วที่เซฮุนว่าเขาปากแข็งน่ะ มันก็จริงนั่นแหละ ทั้งๆที่รู้สึกดีเวลาอีกคนมาคอยก่อกวนอยู่ใกล้ๆ แต่เขาก็ชอบเอ่ยปากไล่อีกคนให้ไปไกลๆ แล้วก็ต้องมานั่งเซ็งเมื่อเห็นภาพที่ชานยอลนั่งหยอกล้อกับคนอื่น



“ฉันไปเรียนก่อนนะ” คยองซูเอ่ยบอกกับทุกคนที่นั่งร่วมโต๊ะกัน ชานยอลที่ได้ยินอย่างนั้นก็เลิกสนใจแซนด์วิชที่กำลังกินอยู่กับแบคฮยอนแล้วหันไปหยิบกระเป๋าแล้วบอก



“งั้นฉันไปด้วย” พูดจบก็ผุดลุกแล้วเดินไปอยู่ข้างๆกับคยองซู แขนยาวๆก็ไม่ปล่อยให้ว่างเอื้อมไปโอบรอบคอของคนตัวเล็กกว่าเอาไว้ด้วย



“เอาออกไปเลย มันหนักนะ” คนตาโตค่อนไปทางเหลือกเอียงหน้าเงยขึ้นไปมองอย่างหาเรื่อง แต่ชานยอลก็รู้ว่าคยองซูนั้นไม่ได้จริงจังเท่าไหร่นักเพราะฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำตามเสียหน่อย



“แขนฉันหนักแค่ไม่กี่ขีดเองนะ”



“นั่นแหละ มันหนัก” พูดจบก็ปัดมืออีกคนให้ออกจากช่วงไหล่ของตัวเองแล้วรีบก้าวขาเร็วๆเพื่อหนีอีกคนไปทันที ชานยอลที่เพิ่งเคยเห็นเพื่อนเหวี่ยงใส่แบบนี้เป็นครั้งแรกก็ต้องหยุดยืนงงมองหลังเล็กของเพื่อนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ



เขาทำอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ?



............................




















ชานยอลนั่งมองเพื่อนตัวเล็กที่หยอกล้อเล่นกับเพื่อนในคณะของเจ้าตัวแล้วก็ขมวดคิ้วฉับ แม้จะนั่งมองจากที่ไกลๆแต่ร่างสูงก็เห็นได้ชัดเจนว่าคยองซูนั้นยิ้มกว้างขนาดไหน



ทีกับเขาทำไมไม่เห็นจะเล่นกลับอย่างนี้บ้าง เอาแต่เอ่ยปากไล่ไม่ก็ทำท่าทีเย็นชาใส่



พอหยอกกันหนักๆเข้าก็กลายเป็นว่าคยองซูและเพื่อนก็วิ่งไล่เตะกันซะอย่างนั้นก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะโดนรวบคอแล้วลากให้เดินไปด้วยกัน มันจะไม่อะไรเลยถ้าหากว่าแขนเล็กจะไม่อ้อมไปโอบเอวของเพื่อนที่ตัวโตกว่าแบบนั้น แบบนี้แล้วชานยอลก็อดน้อยใจไม่ได้



คนที่แอบชอบอย่างเขาเห็นแบบนี้นี่ก็ช้ำใจไม่น้อยเหมือนกันนะ



ทั้งๆที่เขาก็ป้วนเปี้ยนวนเวียนกับอีกคนตลอด ทำตัวไม่ต่างจากเพื่อนคนนั้นของคยองซูเลยเถอะ แต่ทำไมถึงชอบทำเย็นชาใส่เขาก็ไม่รู้ ทั้งๆที่กับคนอื่นก็หยอกเล่นปกติธรรมดาแท้ๆ



“นั่งมองอะไรน่ะ?” แบคฮยอนเดินเข้ามาทักเพื่อนก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงตามแล้วมองหาสิ่งที่เพื่อนเอาแต่มองไม่วางตา แต่เขาก็ไม่เห็นอะไร



“เปล่าหรอก มองไปเรื่อยๆน่ะ”



“งั้นเหรอ เออ...ว่าแต่เย็นนี้นายว่างหรือเปล่า?”



“ก็...” ชานยอลทำท่านึกคิดว่าเขามีธุระอะไรในเย็นนี้หรือเปล่า “ไม่มีหรอก ทำไมเหรอ?” คิดไม่ออกก็บอกไปก่อนแล้วกันว่าไม่มี



“งั้นไปช่วยเลือกรองเท้าเป็นเพื่อนหน่อยสิ” แบคฮยอนส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ด้วยเผื่อจะช่วยให้อีกคนยอมไปเป็นเพื่อน ซึ่งชานยอลก็ต้องยอมอยู่แล้วแม้ไม่ต้องอ้อนก็เถอะ ก็เขาเป็นเพื่อนที่ดีนี่นา




.
.
.




คยองซูยืนหน้าบูดอยู่ใต้คณะ ก็ตอนเย็นเขานัดชานยอลเอาไว้ว่าจะไปดูรองเท้าด้วยกัน แล้วนี่ก็เลยเวลานัดมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วด้วย โทรไปก็ไม่รับสายอีก ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ก็ไม่รู้



สุดท้ายแล้วคยองซูก็โทรไปหารุ่นน้องคนสนิทอย่างเซฮุนให้ไปเป็นเพื่อนกัน



“ผมว่าพี่ชานยอลต้องลืมนัดพี่แน่ๆ”



“เออ ฉันก็ว่างั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปตายที่ไหน โทรไปก็ไม่รับด้วย เซ็งชะมัดเลยคนแบบนี้เนี่ย” คยองซูบ่นกระปอดกระแปดระหว่างที่กำลังยืนอยู่บนบันไดเลื่อนภายในห้างใกล้กับมหาวิทยาลัย



“เซ็งแล้วทำไมยังไปชอบเขาอีกล่ะ?” เซฮุนเอ่ยถามยิ้มๆจนโดนรุ่นพี่ค้อนสายตาส่งให้ ซึ่งหนุ่มน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่แล้ว เรื่องแซวน่ะขอให้บอก เซฮุนถนัดมาก



“เงียบปากไปเลยโอเซฮุน ฉันไม่น่ารู้จักนายเลยจริงๆ”



“พูดอย่างนี้ผมไม่น่ามาเป็นเพื่อนเลย กลับดีกว่า”



“ก็กลับสิ สัญญาที่ว่าจะเลี้ยงข้าวทั้งอาทิตย์ยกเลิกแน่ๆ”



“ง่า...” เซฮุนยอมโอนอ่อนตามอีกคนทันที



ทั้งสองคนเดินเข้าร้านรองเท้าร้านที่เกือบเป็นร้านประจำเวลาจะมาซื้อรองเท้า คยองซูเดินไปที่โซนร้องเท้าผ้าใบของยี่ห้อหนึ่ง พอดีว่ารองเท้าที่เขากำลังใส่อยู่มันเริ่มจะสึกหรอแล้วน่ะสิ ดอกยางจะหายหมดแล้ว เวลาฝนตกที เดินบนพื้นเปียกๆนี่แทบจะลื่นล้มกลางถนน



พอเดินดูไปเรื่อยๆจากยี่ห้อนี้ ไปยี่ห้อนู้น ก็ดันไปเจอเพื่อนสองคนกำลังช่วยเลือกรองเท้าอยู่ คยองซูยืนมองสองคนนั้นนิ่งๆก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินออกจากร้านไปเลย เซฮุนที่เพิ่งเดินตามมาทีหลังก็ได้แต่ทำหน้างง เกาหัวแกรกๆอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมรุ่นพี่ของเขาถึงได้เดินหน้าบึ้งออกไปแบบนั้น จนสายตาไปเจอพอดีกับรุ่นพี่อีกคนที่สนิทไม่ต่างกันอย่างปาร์คชานยอลที่กำลังช่วยแบคฮยอนเลือกรองเท้าอยู่



ไอ้พี่ปาร์คงานเข้าแบบไม่ทันตั้งตัว



“อ้าวเซฮุน! มาทำอะไรที่นี่น่ะ?” ชานยอลเงยหน้ามาพอดีเห็นรุ่นน้องยืนหน้าไม่สู้ดีอยู่เลยเอ่ยทัก



“คือ... ผมมาเป็นเพื่อนพี่คยองซูน่ะ” ชื่อของเพื่อนตัวเล็กเหมือนจะช่วยเรียกความจำกลับคืนมาให้กับชานยอล เขาจำได้ทันทีว่าตอนเย็นเขามีนัดกับคยองซูนี่นา



“ฉิบหายแล้วววววววว” ชานยอลสบถกับตัวเองก่อนจะรีบเดินมาหาเซฮุนแล้วถามหาเพื่อนของตัวเองทันที “แล้วไหนคยองซูล่ะ?”



“เดินออกไปเมื่อกี้” เท่านั้นแหละชานยอลรีบพุ่งตัวออกจากร้านไปตามหาคยองซูโดยทันที โดยทิ้งให้แบคฮยอนมองหน้าเซฮุนอย่างงงๆ เซฮุนก็เลยได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งไปให้ เขาคิดว่าวันนี้หน้าที่เขาคงหมดแล้วแน่ๆ จึงกดต่อสายหาเพื่อนสนิทของตัวเองให้มาหาที่ห้างฯแทน



เออ ได้เดินเที่ยวฟรีๆมีคนเลี้ยงก็ดีเหมือนกัน



...............................

























คยองซูไม่พอใจในตัวปาร์คชานยอลเป็นอย่างมาก บอกเลยว่าโกรธจริงๆ ทำไมถึงผิดนัดเขาแล้วไปกับอีกคนแทนแบบนั้น ทั้งๆที่ก็คุยกันแล้วว่านัดกันวันนี้อย่าลืม สงสัยชานยอลคงไม่คิดจะใส่ใจอะไรก็ช่างที่มีชื่อคยองซูเกี่ยวข้องเป็นแน่



เดินมาได้สักพัก ข้อมือเล็กก็ถูกคนดึงเอาไว้ คยองซูหันไปมองก็เป็นเพื่อนที่เบี้ยวนัดนั่นเอง ใบหน้าเด็กมองอีกคนด้วยความไม่พอใจที่ฉายชัด ส่วนชานยอลก็ได้แต่ทำหน้าสำนึกผิด



“ขอโทษ...” ชานยอลทำท่าสำนึกผิดสงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นอย่างมาก ก็เขาผิดเต็มประตูเลยนี่ ดันลืมนัดของอีกคนไปจนได้



“...................” คยองซูมองอีกคนนิ่งๆโดยที่ไม่พูดอะไร



“คยองซูอา ขอโทษจริงๆ ตอนนั้นแบคฮยอนก็ถามแล้วอ่ะว่ามีนัดหรือเปล่าแต่ฉันนึกไม่ออกนี่”



“ก็ฉันไม่สำคัญจนนายไม่คิดจะจำนี่” พอได้ทีตัดพ้อก็ตัดพ้อใหญ่ คยองซูบิดข้อมือออกก่อนจะเดินไปต่อโดยที่มีคนตัวสูงยักษ์เดินตามไปด้วย



“ใครบอกล่ะ นายเป็นเพื่อนสนิทฉันนะ นายสำคัญอยู่แล้ว แต่ฉันขอโทษจริงๆนะ ขอโทษจริงๆ จะให้ฉันทำอะไรฉันยอมหมดทุกอย่างจริงๆนะ นะๆ” ชานยอลเอ่ยแบบนี้ไปตลอดทาง ถามว่าคยองซูรำคาญมั้ย? เขาก็รำคาญแต่เขาก็ชอบที่ให้มันเป็นแบบนี้



เขาสองคนอาจไม่ชัดเจนต่อกันและกันในเรื่องของความรู้สึกของตัวเอง แต่พวกเขาชัดเจนในการกระทำของตัวเอง



คยองซูยืนยันที่จะทำตัวเย็นชาไม่สนใจชานยอล ในขณะที่ชานยอลก็ชัดเจนที่จะทำตัวน่ารำคาญกับคยองซูแบบนี้ต่อไปเช่นกัน




























END.























เราได้มาแต่งชานซูอีกแล้ว คือช่วงนี้ทำไมฟิตก็ไม่รู้
เมื่อวานซืนและเมื่อวานคริสลู่ไปสองเรื่อง
วันนี้ได้ชานซูซะอย่างนั้น ขาดเทาฮุนสินะ หึหึหึ
แต่จะว่าไปในบล็อคนี้เราก็ยังไม่ได้เจิมเทาฮุนเสียทีเลยนะ
รอให้เรามีอารมณ์กามก่อนนะค่อยมาเอ็นซีเทาฮุนกัน ฮ่าๆๆๆๆ (เทาฮุนคือกามเหรอ?? โฮ่~~~~~~~)

เราคิดว่ากำลังจะแต่งชานซูต่อจากเรื่องแฟนใหม่คนเก่าแหละ คือต่อมาจากคริสลู่ 
แต่ยังไ่รู้จะเอาลงที่ไหนเลย 
เอาลงที่นี่ก็คงจะมีคนได้อ่านน้อย เอาลงเด็กดีก็คงจะต้องเปิดห้องให้ชานซูซึ่งเราไม่รู้ว่าจะร้างหรือเปล่าน่ะสิ =.,= เพราะฟีลชานซูจะมาเป็นพักๆ ฮ่าๆๆๆ
แต่เราว่าคงได้เจอกันในเด็กดีแน่ๆเลย 3-5ตอนจบประมาณนี้


ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ 
ขอบคุณที่บังเอิญเข้ามาอ่านกันนะคะ :D





วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

[OS] โอเล้ โอเล่ โอเล่ โอเหล่ GO GO! WORLD CUP [Kris x Luhan]

โอเล้ โอเล่ โอเล่ โอเหล่ GO GO! WORLD CUP

Kris x Luhan












* ‘เมื่อถึงเทศกาลบอลโลก สาวๆอย่าคิดที่จะได้เข้าใกล้หนุ่มๆหวังที่จะจู๋จี๋ ดู๋ดี๋ เล่นเกมรักกันให้ดึ๋งดั๋ง ปึ๋งปั๋ง ทดสอบความฟิตของร่างกาย เพราะเมื่อพวกเขาเห็นจอเขียวๆ มีลูกกลมๆ กับผู้ชายวิ่งไปวิ่งมาแล้ว เขาจะไม่มีทางสนใจอะไรเลย แต่! ถ้ามีสิ่งที่สามารถดึงดูดใจเขาได้ดีกว่าลูกฟุตบอลมันก็ไม่แน่ ต้องไปอ่านกันดูว่า มีวิธีเรียกร้องความสนใจจากเขาอย่างไรบ้าง!!

-       ลองก้มหาของ แต่งตัววับๆแวมๆ เห็นนิดเห็นหน่อยทำให้มีศิลปะเนียนๆ – เต้นยั่ว ต้อนชายหนุ่มให้นั่งลงบนโซฟา จากนั้นนั่งคร่อมประจันหน้า ดวงตาประสานกันตลอดเวลา
-       สัมผัสแผ่นหลัง คลึงที่บริเวณสันหลังของเขา เริ่มจากการนวดเบาๆบริเวณต้นคอแล้วค่อยๆเปลี่ยนไปตามความเว้าของแผ่นหลังของเขาสุดจนไปถึงร่องก้น
-       ใบหูเป็นจุดจีสปอตที่เร้าอารมณ์ของหนุ่มๆได้ดีเหลือเกิน เพียงคุณเขยิบปลายจมูกและริมฝีปากไปที่ใบหูข้างหนึ่งของเขา หายใจรดต้นหู รับรองเดือดพลุ่งพล่านสุดๆ
-       กินไส้กรอกโชว์ เพียงแค่สร้างฉากยั่วยวนปลุกอารมณ์ของเขานิดๆ ก็ทำให้ภาพจินตนาการของเขาเตลิดเปิดเปิงไปแล้ว




สายตาคมกำลังไล่อ่านบทความที่เขาบังเอิญเปิดเจอโดยบังเอิญ ช่วงนี้มันเป็นช่วงบอลโลก มนุษย์ผู้ชายก็เลยพากันให้ความสนใจเป็นพิเศษ และยิ่งมนุษย์ผู้ชายอย่างแฟนตัวเล็กของเขาที่รักฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจก็ไม่ได้รับการยกเว้นด้วย



ก็ในเมื่อตอนนี้เป็นเวลาตีสามกว่าๆด้วยเพราะเวลาที่อยู่กันคนละซีกโลกทำให้การถ่ายทอดฟุตบอลอ้อมโลกต้องดึกตามไปด้วย เขาก็ยังต้องแหกขี้ตาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนอีกคนที่นั่งตาแป๋วกอดหมอนดูบอลอยู่หน้าทีวี ส่วนเขา อู๋อี้ฟานก็นั่งเปิดคอมพ์เล่นอินเตอร์เน็ตแทน เพราะเขาเป็นมนุษย์ผู้ชายที่ไม่ได้คลั่งไคล้บอลขนาดนั้น



พอมาเจอบทความนี้ก็เลยเปิดเข้าไปอ่าน มันไม่ใช่แค่ปัญหาของผู้หญิงเท่านั้นหรอก มันปัญหาของเขาด้วย ลูกผู้ชายตัวสูงยักษ์อย่างเขานี่แหละ ลู่หานไม่สนใจอะไรเลยเมื่อบอลโลกมาถึง กระทั่งกับเขาที่เป็นแฟนน่ะ



แต่จะให้เขาทำตามอย่างที่อ่านนี่ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ ลองนึกถึงเขาที่ต้องแต่งตัววับๆแวมๆ เต้นยั่ว นั่งตัก เอ่อ... พอก่อนเถอะ แค่แต่งตัวมันก็ไม่ได้น่าดูแล้ว มันน่ากลัวมากกว่าน่ะสิ



แต่ก็นั่นแหละ อดมาตั้งหลายวันแล้วนี่นา แล้วยิ่งโดนแฟนเมินขนาดนี้มันก็ต้องรู้สึกห่อเหี่ยวเหมือนกันอ่ะ สงสารก็แต่อู๋อี้ฟานน้อยๆนี่แหละ



แมนๆอย่างลู่หานน่ะ ต้องมอมเท่านั้นแหละ หึๆๆๆ



ว่าแล้วคนตัวสูงก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกระป๋องเบียร์ออกมาหกกระป๋อง แล้วหอบไปวางไว้บนโต๊ะหน้าโทรทัศน์ คนตาสวยเหลือบมองอย่างสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม



“ทำไมวันนี้มานั่งดูด้วยล่ะ?”



“ก็กลัวเหงานี่นา อ่ะ ดื่มเบียร์หน่อยมั้ย?” ไม่ว่าเปล่า คนหล่อแถมใจยังหล่อก็เปิดฝากระป๋องเบียร์แล้วส่งไปให้อีกคน ลู่หานยิ้มก่อนจะรับมาแล้วกระดกเข้าปากทันที



“เออ อย่างนี้ค่อยสนุกหน่อย มีเพื่อนมานั่งดูด้วยเนี่ย” ลู่หานหันมาพูดด้วยแล้วก็หันกลับไปจ้องลูกกลมๆในโทรทัศน์ต่อ อี้ฟานยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย แล้วยกเบียร์ดื่มตามด้วย



อี้ฟานฉลาดพอที่จะไม่ดื่มจนหมดกระป๋องหรอก เขาเอามาหก เปิดให้ตัวเองหนึ่ง ที่เหลือให้ลู่หานดื่มคนเดียวนั่นแหละ เจ้านั้นเคยสนใจอะไรที่ไหนล่ะ เอาแต่บ่นๆกับจอโทรทัศน์แล้วยกเบียร์ซดเอาๆไม่สนใจใคร ถือว่าลู่หานทำได้ดี



คนตัวสูงกว่าเขยิบเข้าไปนั่งใกล้อีกคนแล้วโอบเอวอีกคนให้เข้ามานั่งใกล้ๆ ลู่หานที่เริ่มจะมึนๆก็ยอมแต่โดยดีโดยที่ไม่ได้คิดอะไร



อี้ฟานหันมามองอีกคนที่ยอมทิ้งตัวกว่าครึ่งมาพิงเขาแต่ตายังจ้องที่ลูกฟุตบอลอยู่ก็ยิ้มอย่างได้ใจ มือหนาค่อยๆสอดไปใต้เนื้อผ้ากางเกงบอลที่คนตัวเล็กใส่อยู่ สัมผัสลู่หานน้อยที่ไร้กางเกงในห่อหุ่มเป็นการกระตุ้นอีกคน ใบหน้าหวานทำหน้ายู่แล้วขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะหันมามองหน้าคนรักที่เอาแต่ยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่



“นี่! หยุดเลยนะ ไม่ต้องคิดจะอยากทำอะไรเลย วางแผนมาใช่มั้ย? เรื่องหื่นๆนี่สมองไวนักนะ อะ...อื้ออออ” พอเอ่ยปากว่าไม่ทันไรก็โดนอีกคนหยอกล้อกับน้องชายตัวเองจนต้องเผลอครางออกมา



“โธ่ เสี่ยวลู่... หลายวันแล้วนะที่เราไม่ได้รักกันน่ะ”



“อื้อออออ...อี้ฟานนนน อ่ะ...” เหมือนจะขัดขืนแต่ก็ยอมไปตามอีกคนอย่างง่ายดาย คงเพราะฤทธิ์เบียร์ด้วยแหละทำเอาสติสัมปชัญญะหายไปเกือบครึ่ง



ริมฝีปากอิ่มก็เริ่มพรมจูบอีกคนด้วยใจที่คิดถึงอย่างหนัก กลีบปากนุ่มที่คุ้นเคยทำเอาลู่หานเริ่มคุมสติไม่อยู่ ไหนจะแผ่นเนื้อบางๆที่เกี่ยวกระหวัดกันอีกทำเอาลู่หานเลิกสนใจผู้ชายกว่ายี่สิบชีวิตในสนามแทบจะทันที แขนเรียวก็เลื่อนขึ้นมาโอบรอบคอแกร่งเอาไว้แล้วจูบตอบอย่างเคยชิน



อี้ฟานละจูบจากปากนุ่มแล้วไซ้ลงมาที่ลำคอขาว ขบเม้มเบาๆเพราะเขาไม่อยากจะสร้างรอยเอาไว้เอาแค่ให้อีกคนได้รู้สึกวาบหวิวเท่านั้นแหละ เสื้อบอลตัวโปรดของร่างเล็กถูกถอดออกตามต่อมาทันที แล้วลู่หานก็ลุกขึ้นแล้วเป็นฝ่ายมานั่งคร่อมตักอีกคนแทน



อี้ฟานก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เขาเชยชมกับเม็ดติ่งสีชมพูเข้มด้วยลิ้นชื้นของเขาจนอีกคนต้องร้องครางออกมาอย่างห้ามใจไม่อยู่



ถือว่าเป็นความโชคดีของอู๋อี้ฟานที่คิดแผนดีๆขึ้นมาได้แบบนี้ ทำเอาคนที่สนใจแต่ฟุตบอลอย่างลู่หานเลิกสนใจได้ คนตัวเล็กในเวลาที่มีปริมาณแอลกฮอลล์ในร่างกายเป็นอะไรที่วิเศษมาก เสนอและสนองให้เขาได้ถึงใจเลยทีเดียว



มือเล็กๆถอดเสื้อของอีกคนออกแล้วตามเข้าไปดอมดมผิวกายอีกคนบ้าง ลิ้นเล็กๆที่หยอกล้อกับหัวนมแข็งๆของอี้ฟานทำเอาคนที่นั่งอยู่นิ่งๆต้องครางออกมาบ้าง ลู่หานลอบยิ้มก่อนจะไล่ลงมาเรื่อยๆจนต่ำกว่าสะดือ มือขาวๆก็ปลดกางเกงอีกคนออก ก็เผยให้เห็นอี้ฟานน้อยที่พร้อมสู้



“คิดถึงกันมากใช่ม้า??” ลู่หานช้อนตาเอ่ยถามอย่างยั่วยวน



“แทบขาดใจเลยล่ะ” อี้ฟานเอ่ยตอบแล้วยิ้มตอบอีกคน ก่อนจะมองอีกคนที่ค่อยไล่จูบน้องชายตัวเองแต่ไม่ยอมให้ปากได้สัมผัส



“คิดถึงอี้ฟานน้อยเหมือนกันอ่ะ ถอดให้หน่อยได้มั้ย?” ลู่หานหยุดแล้วลุกขึ้นมาถามอีกคน อี้ฟานยิ้มอย่างพอใจก่อนจะดึงกางเกงของอีกคนลง กลายเป็นว่าเขาทั้งคู่พร้อมกับบทรักที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาข้างหน้าแล้ว



กวางน้อยยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆพาตัวเองให้นั่งทับตักอีกคนอย่างช้าๆ ความรู้สึกที่ถูกเติมเต็มทางด้านหลังทำให้ลู่หานต้องร้องออกมาเบาๆ เพราะเขาเริ่มรู้สึกเจ็บ คนตัวสูงที่นั่งอยู่เฉยๆก็ดึงอีกคนมารับจุมพิตจากเขาเพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลทางด้านหลังมากนัก และมันก็ได้ผลเมื่อลู่หานทำมันได้สำเร็จ



จังหวะรักของทั้งคู่ก็เริ่มบรรเลงทันทีด้วยฝีมือของลู่หาน โดยมีคู่รับเป็นอี้ฟานที่คอยช่วยกันอีกที พร้อมกับการประสานเสียงร้องของทั้งคู่ ราวกับต้องการขับกล่อมให้เขาสองคนมีความสุขกับการดื่มด่ำในตัวกันและกันเป็นอย่างดี ตลอดจนถึงตัวโน้ตตัวสุดท้ายของทั้งคู่ น้ำแห่งความสุขก็หลั่งออกมาทันที



หัวกลมของกวางน้อยตาใสซบลงที่ไหล่กว้างของอีกคนอย่างเหนื่อยอ่อน ลมหายใจร้อนๆก็พรูรดที่ต้นคอของอีกคนไม่หยุด ท่าทางคงเหนื่อยน่าดู



“ปิดโทรทัศน์แล้วเข้าห้องก่อนนะ” อี้ฟานเอ่ยเชิงถาม ลู่หานก็พยักหน้ารับเบาๆก่อนจะยอมถอนกายออกจากอีกคนเมื่ออี้ฟานสั่ง นั่งรออีกคนปิดแมตช์ฟุตบอลอยู่บนโซฟาแล้วส่งมือเป็นสัญญาณให้อีกคนเข้ามาอุ้มซึ่ง มังกรหนุ่มก็ไม่อิดออดอะไร ก็อุ้มกวางไปกินนี่นา เป็นใครจะไม่อยากอุ้มกันล่ะ ฮิๆๆ











END.






* นำมาจากอินสตาแกรม @thairath




เอ็นซีอะไรวะ?
มันมาแบบงงๆ
พล็อตก็มาแบบงงๆ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
หากมันแปลกๆก็ช่างมันเถอะเนาะค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

ปล. เหมือนมีบล็อกเอาไว้แต่งให้ตัวเองอ่านอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ