ความชัดเจน
“คยองซู~~~~~~~”
เสียงเรียกจากเพื่อนชายตัวสูงเกือบเท่าเสาไฟฟ้าอย่างปาร์คชานยอลดังมาก่อนตัวเสียอีก
เจ้าของชื่อหันไปมองเพื่อนหูกางที่ยิ้มกว้างมาแต่ไกล
แล้วร่างเล็กๆอย่างกับเด็กประถมนั้นก็ต้องรองรับแรงที่ถาโถมมาจากอีกคน
ชานยอลเข้ากอดเพื่อนจากด้านหลังอย่างคุ้นเคย
ใช่ คุ้นเคย
คุ้นเคยสายตาคนแถวนี้หมดแล้ว
“ฉันล่ะรำคาญนายจริงๆปาร์คชานยอล
ไปไกลๆเลยไป” คนตัวเล็กพูดแบบโดยที่ไม่ใส่ใจมากนัก
เอ่ยปากไล่นั่นก็พูดทุกวันโดยที่มันไม่ได้มีความจริงจังเท่าไหร่
“ไล่กันตลอดเลย
ถ้าฉันหายไปแล้วนายจะรู้สึก! อ๊าาาาาาาา
แบคฮยอนนนนนน อยากกินแซนด์วิชด้วยจังเลยอ่ะ ป้อนหน่อยๆ”
ชานยอลหันมาตัดพ้อกับคยองซูได้ไม่ทันไร
ก็หันไปทำตัวอ้อนใส่เพื่อนขนาดกะทัดรัดอีกคนเสียแล้ว
คยองซูมองดูภาพนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ทำหน้าอย่างกับคนอกหักแน่ะ
ทนเห็นพี่ชานยอลไปเล่นกับพี่แบคฮยอนไม่ได้อ่ะเด้” เซฮุน เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่นั่งอยู่ด้วยกันบนโต๊ะเอ่ยกระเซ้าเล่นๆกับพี่ชายตัวเล็ก
“ทำไมฉันจะทนไม่ได้ล่ะ
หมอนั่นมันก็ทำตัวขี้อ้อนแบบนั้นกับทุกคนอยู่แล้ว”
“พี่น่ะปากแข็งรู้ตัวหรือเปล่า?”
“ฉันปากแข็งตรงไหนโอเซฮุน?”
“พี่รู้ตัวเองดีอยู่แล้ว”
เซฮุนว่างพลางกดเกมในโทรศัพท์ต่อ
คยองซูเลิกสนใจรุ่นน้องแล้วหันไปมองชานยอลกับแบคฮยอนที่กำลังนั่งกินแซนด์วิชด้วยกันอยู่
ก่อนจะเสมองไปทางอื่น
เขาไม่น่าชอบเจ้าบ้าปาร์คชานยอลนั่นจริงๆนะ
ทั้งๆที่ก็รู้ว่าชานยอลชอบทำตัวขี้เล่นกับทุกคนที่มันรู้จัก
แต่คยองซูก็ไม่รู้จักห้ามใจตัวเองไม่ให้ไปหลงรักเจ้าเพื่อนบ้าช่างทะเล้นนั่นได้
แล้วที่เซฮุนว่าเขาปากแข็งน่ะ มันก็จริงนั่นแหละ
ทั้งๆที่รู้สึกดีเวลาอีกคนมาคอยก่อกวนอยู่ใกล้ๆ
แต่เขาก็ชอบเอ่ยปากไล่อีกคนให้ไปไกลๆ
แล้วก็ต้องมานั่งเซ็งเมื่อเห็นภาพที่ชานยอลนั่งหยอกล้อกับคนอื่น
“ฉันไปเรียนก่อนนะ”
คยองซูเอ่ยบอกกับทุกคนที่นั่งร่วมโต๊ะกัน
ชานยอลที่ได้ยินอย่างนั้นก็เลิกสนใจแซนด์วิชที่กำลังกินอยู่กับแบคฮยอนแล้วหันไปหยิบกระเป๋าแล้วบอก
“งั้นฉันไปด้วย”
พูดจบก็ผุดลุกแล้วเดินไปอยู่ข้างๆกับคยองซู
แขนยาวๆก็ไม่ปล่อยให้ว่างเอื้อมไปโอบรอบคอของคนตัวเล็กกว่าเอาไว้ด้วย
“เอาออกไปเลย มันหนักนะ”
คนตาโตค่อนไปทางเหลือกเอียงหน้าเงยขึ้นไปมองอย่างหาเรื่อง
แต่ชานยอลก็รู้ว่าคยองซูนั้นไม่ได้จริงจังเท่าไหร่นักเพราะฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำตามเสียหน่อย
“แขนฉันหนักแค่ไม่กี่ขีดเองนะ”
“นั่นแหละ มันหนัก”
พูดจบก็ปัดมืออีกคนให้ออกจากช่วงไหล่ของตัวเองแล้วรีบก้าวขาเร็วๆเพื่อหนีอีกคนไปทันที
ชานยอลที่เพิ่งเคยเห็นเพื่อนเหวี่ยงใส่แบบนี้เป็นครั้งแรกก็ต้องหยุดยืนงงมองหลังเล็กของเพื่อนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
เขาทำอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ?
............................
ชานยอลนั่งมองเพื่อนตัวเล็กที่หยอกล้อเล่นกับเพื่อนในคณะของเจ้าตัวแล้วก็ขมวดคิ้วฉับ
แม้จะนั่งมองจากที่ไกลๆแต่ร่างสูงก็เห็นได้ชัดเจนว่าคยองซูนั้นยิ้มกว้างขนาดไหน
ทีกับเขาทำไมไม่เห็นจะเล่นกลับอย่างนี้บ้าง
เอาแต่เอ่ยปากไล่ไม่ก็ทำท่าทีเย็นชาใส่
พอหยอกกันหนักๆเข้าก็กลายเป็นว่าคยองซูและเพื่อนก็วิ่งไล่เตะกันซะอย่างนั้นก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะโดนรวบคอแล้วลากให้เดินไปด้วยกัน
มันจะไม่อะไรเลยถ้าหากว่าแขนเล็กจะไม่อ้อมไปโอบเอวของเพื่อนที่ตัวโตกว่าแบบนั้น
แบบนี้แล้วชานยอลก็อดน้อยใจไม่ได้
คนที่แอบชอบอย่างเขาเห็นแบบนี้นี่ก็ช้ำใจไม่น้อยเหมือนกันนะ
ทั้งๆที่เขาก็ป้วนเปี้ยนวนเวียนกับอีกคนตลอด
ทำตัวไม่ต่างจากเพื่อนคนนั้นของคยองซูเลยเถอะ แต่ทำไมถึงชอบทำเย็นชาใส่เขาก็ไม่รู้
ทั้งๆที่กับคนอื่นก็หยอกเล่นปกติธรรมดาแท้ๆ
“นั่งมองอะไรน่ะ?”
แบคฮยอนเดินเข้ามาทักเพื่อนก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงตามแล้วมองหาสิ่งที่เพื่อนเอาแต่มองไม่วางตา
แต่เขาก็ไม่เห็นอะไร
“เปล่าหรอก
มองไปเรื่อยๆน่ะ”
“งั้นเหรอ
เออ...ว่าแต่เย็นนี้นายว่างหรือเปล่า?”
“ก็...”
ชานยอลทำท่านึกคิดว่าเขามีธุระอะไรในเย็นนี้หรือเปล่า “ไม่มีหรอก ทำไมเหรอ?” คิดไม่ออกก็บอกไปก่อนแล้วกันว่าไม่มี
“งั้นไปช่วยเลือกรองเท้าเป็นเพื่อนหน่อยสิ”
แบคฮยอนส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ด้วยเผื่อจะช่วยให้อีกคนยอมไปเป็นเพื่อน
ซึ่งชานยอลก็ต้องยอมอยู่แล้วแม้ไม่ต้องอ้อนก็เถอะ ก็เขาเป็นเพื่อนที่ดีนี่นา
.
.
.
คยองซูยืนหน้าบูดอยู่ใต้คณะ
ก็ตอนเย็นเขานัดชานยอลเอาไว้ว่าจะไปดูรองเท้าด้วยกัน
แล้วนี่ก็เลยเวลานัดมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วด้วย โทรไปก็ไม่รับสายอีก ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ก็ไม่รู้
สุดท้ายแล้วคยองซูก็โทรไปหารุ่นน้องคนสนิทอย่างเซฮุนให้ไปเป็นเพื่อนกัน
“ผมว่าพี่ชานยอลต้องลืมนัดพี่แน่ๆ”
“เออ ฉันก็ว่างั้น
ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปตายที่ไหน โทรไปก็ไม่รับด้วย เซ็งชะมัดเลยคนแบบนี้เนี่ย”
คยองซูบ่นกระปอดกระแปดระหว่างที่กำลังยืนอยู่บนบันไดเลื่อนภายในห้างใกล้กับมหาวิทยาลัย
“เซ็งแล้วทำไมยังไปชอบเขาอีกล่ะ?”
เซฮุนเอ่ยถามยิ้มๆจนโดนรุ่นพี่ค้อนสายตาส่งให้
ซึ่งหนุ่มน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่แล้ว เรื่องแซวน่ะขอให้บอก เซฮุนถนัดมาก
“เงียบปากไปเลยโอเซฮุน
ฉันไม่น่ารู้จักนายเลยจริงๆ”
“พูดอย่างนี้ผมไม่น่ามาเป็นเพื่อนเลย
กลับดีกว่า”
“ก็กลับสิ
สัญญาที่ว่าจะเลี้ยงข้าวทั้งอาทิตย์ยกเลิกแน่ๆ”
“ง่า...”
เซฮุนยอมโอนอ่อนตามอีกคนทันที
ทั้งสองคนเดินเข้าร้านรองเท้าร้านที่เกือบเป็นร้านประจำเวลาจะมาซื้อรองเท้า
คยองซูเดินไปที่โซนร้องเท้าผ้าใบของยี่ห้อหนึ่ง พอดีว่ารองเท้าที่เขากำลังใส่อยู่มันเริ่มจะสึกหรอแล้วน่ะสิ
ดอกยางจะหายหมดแล้ว เวลาฝนตกที เดินบนพื้นเปียกๆนี่แทบจะลื่นล้มกลางถนน
พอเดินดูไปเรื่อยๆจากยี่ห้อนี้
ไปยี่ห้อนู้น ก็ดันไปเจอเพื่อนสองคนกำลังช่วยเลือกรองเท้าอยู่
คยองซูยืนมองสองคนนั้นนิ่งๆก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินออกจากร้านไปเลย
เซฮุนที่เพิ่งเดินตามมาทีหลังก็ได้แต่ทำหน้างง
เกาหัวแกรกๆอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมรุ่นพี่ของเขาถึงได้เดินหน้าบึ้งออกไปแบบนั้น
จนสายตาไปเจอพอดีกับรุ่นพี่อีกคนที่สนิทไม่ต่างกันอย่างปาร์คชานยอลที่กำลังช่วยแบคฮยอนเลือกรองเท้าอยู่
ไอ้พี่ปาร์คงานเข้าแบบไม่ทันตั้งตัว
“อ้าวเซฮุน! มาทำอะไรที่นี่น่ะ?”
ชานยอลเงยหน้ามาพอดีเห็นรุ่นน้องยืนหน้าไม่สู้ดีอยู่เลยเอ่ยทัก
“คือ...
ผมมาเป็นเพื่อนพี่คยองซูน่ะ”
ชื่อของเพื่อนตัวเล็กเหมือนจะช่วยเรียกความจำกลับคืนมาให้กับชานยอล
เขาจำได้ทันทีว่าตอนเย็นเขามีนัดกับคยองซูนี่นา
“ฉิบหายแล้วววววววว” ชานยอลสบถกับตัวเองก่อนจะรีบเดินมาหาเซฮุนแล้วถามหาเพื่อนของตัวเองทันที
“แล้วไหนคยองซูล่ะ?”
“เดินออกไปเมื่อกี้”
เท่านั้นแหละชานยอลรีบพุ่งตัวออกจากร้านไปตามหาคยองซูโดยทันที
โดยทิ้งให้แบคฮยอนมองหน้าเซฮุนอย่างงงๆ เซฮุนก็เลยได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งไปให้
เขาคิดว่าวันนี้หน้าที่เขาคงหมดแล้วแน่ๆ จึงกดต่อสายหาเพื่อนสนิทของตัวเองให้มาหาที่ห้างฯแทน
เออ
ได้เดินเที่ยวฟรีๆมีคนเลี้ยงก็ดีเหมือนกัน
...............................
คยองซูไม่พอใจในตัวปาร์คชานยอลเป็นอย่างมาก
บอกเลยว่าโกรธจริงๆ ทำไมถึงผิดนัดเขาแล้วไปกับอีกคนแทนแบบนั้น
ทั้งๆที่ก็คุยกันแล้วว่านัดกันวันนี้อย่าลืม
สงสัยชานยอลคงไม่คิดจะใส่ใจอะไรก็ช่างที่มีชื่อคยองซูเกี่ยวข้องเป็นแน่
เดินมาได้สักพัก ข้อมือเล็กก็ถูกคนดึงเอาไว้
คยองซูหันไปมองก็เป็นเพื่อนที่เบี้ยวนัดนั่นเอง
ใบหน้าเด็กมองอีกคนด้วยความไม่พอใจที่ฉายชัด ส่วนชานยอลก็ได้แต่ทำหน้าสำนึกผิด
“ขอโทษ...”
ชานยอลทำท่าสำนึกผิดสงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นอย่างมาก ก็เขาผิดเต็มประตูเลยนี่
ดันลืมนัดของอีกคนไปจนได้
“...................”
คยองซูมองอีกคนนิ่งๆโดยที่ไม่พูดอะไร
“คยองซูอา ขอโทษจริงๆ
ตอนนั้นแบคฮยอนก็ถามแล้วอ่ะว่ามีนัดหรือเปล่าแต่ฉันนึกไม่ออกนี่”
“ก็ฉันไม่สำคัญจนนายไม่คิดจะจำนี่”
พอได้ทีตัดพ้อก็ตัดพ้อใหญ่ คยองซูบิดข้อมือออกก่อนจะเดินไปต่อโดยที่มีคนตัวสูงยักษ์เดินตามไปด้วย
“ใครบอกล่ะ
นายเป็นเพื่อนสนิทฉันนะ นายสำคัญอยู่แล้ว แต่ฉันขอโทษจริงๆนะ ขอโทษจริงๆ
จะให้ฉันทำอะไรฉันยอมหมดทุกอย่างจริงๆนะ นะๆ” ชานยอลเอ่ยแบบนี้ไปตลอดทาง
ถามว่าคยองซูรำคาญมั้ย? เขาก็รำคาญแต่เขาก็ชอบที่ให้มันเป็นแบบนี้
เขาสองคนอาจไม่ชัดเจนต่อกันและกันในเรื่องของความรู้สึกของตัวเอง
แต่พวกเขาชัดเจนในการกระทำของตัวเอง
คยองซูยืนยันที่จะทำตัวเย็นชาไม่สนใจชานยอล
ในขณะที่ชานยอลก็ชัดเจนที่จะทำตัวน่ารำคาญกับคยองซูแบบนี้ต่อไปเช่นกัน
END.
เราได้มาแต่งชานซูอีกแล้ว คือช่วงนี้ทำไมฟิตก็ไม่รู้
เมื่อวานซืนและเมื่อวานคริสลู่ไปสองเรื่อง
วันนี้ได้ชานซูซะอย่างนั้น ขาดเทาฮุนสินะ หึหึหึ
แต่จะว่าไปในบล็อคนี้เราก็ยังไม่ได้เจิมเทาฮุนเสียทีเลยนะ
รอให้เรามีอารมณ์กามก่อนนะค่อยมาเอ็นซีเทาฮุนกัน ฮ่าๆๆๆๆ (เทาฮุนคือกามเหรอ?? โฮ่~~~~~~~)
เราคิดว่ากำลังจะแต่งชานซูต่อจากเรื่องแฟนใหม่คนเก่าแหละ คือต่อมาจากคริสลู่
แต่ยังไ่รู้จะเอาลงที่ไหนเลย
เอาลงที่นี่ก็คงจะมีคนได้อ่านน้อย เอาลงเด็กดีก็คงจะต้องเปิดห้องให้ชานซูซึ่งเราไม่รู้ว่าจะร้างหรือเปล่าน่ะสิ =.,= เพราะฟีลชานซูจะมาเป็นพักๆ ฮ่าๆๆๆ
แต่เราว่าคงได้เจอกันในเด็กดีแน่ๆเลย 3-5ตอนจบประมาณนี้
ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
ขอบคุณที่บังเอิญเข้ามาอ่านกันนะคะ :D